เมนู

คฤหบดีชื่ออปราชิต ยังพระคันกุฎีให้สำเร็จด้วยอาการอย่างนั้นแล้ว
จึงเข้าไปหาพระเถระผู้พี่ชาย เรียนว่า " ท่านขอรับ พระคันธกุฎีสำเร็จ
แล้ว. กระผมหวังการใช้สอยพระคันธกุฎีนั้น, ได้ยินว่า บุญเป็นอันมาก
ย่อมมีเพราะการใช้สอย."
พระเถระนั้น เข้าไปเฝ้าพระศาสดากราบทูลว่า "พระเจ้าข้า ทราบ
ว่า กุฎุมพีผู้นี้ให้สร้างพระคันธกุฎีเพื่อพระองค์, บัดนี้เธอหวังการใช้สอย."
พระศาสดาเสด็จลุกจากอาสนะแล้ว เสด็จไปสู่ที่เฉพาะหน้าพระ-
คันธกุฎี ทอดพระเนตรกองรัตนะที่เขากองล้อมรอบพระคันธกุฎี ได้
ประทับยืนอยู่แล้วที่ซุ้มแห่งประตู1, ก็เมื่อกุฎุมพีนั้นกราบทูลว่า " พระเจ้า-
ข้า การรักษาจักมีแก่ข้าพระองค์เอง, ขอพระองค์จงเสด็จเข้าไปเถิด."
พระศาสดาเสด็จเข้าไปแล้ว.

เขาตั้งการรักษารัตนะที่โปรยไว้รอบพระคันธกุฎี


แม้กุฎุมพีก็ตั้งการรักษาไว้โดยรอบ สั่งมนุษย์ทั้งหลายไว้ว่า " พ่อ
1. เบื้องหน้าแต่นี้ คำพูดอย่างนี้ ปรากฏโดยมาก: ลำดับนั้น กุฏุมพีกราบทูลพระองค์ว่า
" ขอพระองค์โปรดเสด็จเข้าไปเถิด พระเจ้าข้า" พระศาสดาประทับยืนอยู่ ณ ที่นั้นนั่นแล ทอด
พระเนตรดูพระเถระพี่ชายของกุฏุมพีนั้นถึง 3 ครั้ง, พระเถระทราบด้วยอาการที่พระองค์ทอด
พระเนตรแล้วนั่นแล กล่าวกะน้องชายว่า " มาเถิด พ่อ เธอจงทูลพระศาสดาว่า การรักษาจักมี
แก่ข้าพระองค์เอง ขอเชิญพระองค์ประทับอยู่ตามสบายเถิด" เขาฟังคำพระเถระแล้ว ถวายบังคม
พระศาสดาด้วยเบญจางคประดิษฐ์ กราบทูลว่า "พระเจ้าข้า พวกมนุษย์เข้าไปที่โคนไม้แล้ว
ไม่มีความเยื่อใยหลีกไปฉันใด, อนึ่ง พวกมนุษย์ข้ามแม่น้ำ ไม่มีความเยื่อใย สละพ่วงแพเสียได้
ฉันใด, ขอพระองค์ทรงเป็นผู้ไม่ความความเยื่อใยฉันนั้น ประทับอยู่เถิด." ก็พระศาสดาประทับยืน
อยู่เพื่ออะไร ๆ ได้ยินว่า พระองค์ทรงมีพระปริวิตกอย่างนี้ว่า "ชนเป็นอันมาก ย่อมมาสู่สำนัก
ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ในเวลาก่อนภัตบ้าง ในเวลาหลังภัตบ้าง เมื่อชนเหล่านั้นถือเอารัตนะ
ทั้งหลายไปอยู่, พวกเราไม่อาจห้ามได้ กุฎุมพีพึงติเตียนว่า ' เมื่อรัตนะประมาณเท่านี้เราโปรยลง
แล้วที่บริเวณ, พระศาสดาไม่ห้ามปรามอุปัฏฐากของพระองค์ แม้ผู้นำ (รัตนะ) ไปอยู่ ดังนี้แล้ว
ทำความอาฆาตในเรา พึงเป็นผู้เข้าถึงอบาย ' เพราะเหตุนี้ พระศาสดาจึงได้ประทับยืนอยู่แล้ว.